Airports of Thailand
19-Aug-2016 ในการประชุมคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ครั้งที่ 10/2559 ในวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2559 เวลา 13.30 น. ณ สำนักงานใหญ่ ทอท.ซึ่งมีนายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ ทอท. เป็นประธาน ที่ประชุมมีมติสรุปได้ดังนี้
ความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554 - 2560)
ตามที่ ทอท.กำลังดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554 - 2560) และ
ได้มีการทยอยเปิดประมูลและยื่นซองเสนอราคาการก่อสร้างตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2559 เป็นต้นมา ประกอบด้วย
(1) งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น 1 และ ชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) (CC1/1)
(2) งานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค (CC3) และ (3) งานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง (CSC) ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการ ทอท.ครั้งที่ 9/2559 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2559 มีมติอนุมัติให้ ทอท.จ้างบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) สำหรับงาน CC1/1 และกิจการค้าร่วม เอส จี แอนด์ อินเตอร์ลิ้งค์ สำหรับงาน CC3 แล้ว นั้น
สำหรับงานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง (CSC) ทอท.ได้ดำเนินการโดยวิธีประมูลตามระเบียบ
ว่าด้วยการพัสดุของ ทอท. ซึ่งมีผู้สนใจยื่นซองเสนอราคาจำนวน 4 ราย คือ กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา SCS Consortium
กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาอินเด็กซ์ฯ กลุ่มบริษัท SAEP Consortium และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาปัญญา คอนซัลแตนท์
ซึ่งปรากฏว่ากลุ่มบริษัทที่ปรึกษา SCS Consortium ชนะการประมูลได้เป็นผู้รับจ้างงานที่ปรึกษาควบคุมงาน
ก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554 - 2560) โดยมีวงเงินในการจัดจ้าง 879,989,400.- บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7)
ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท.ครั้งที่ 10/2559 วันที่ 19 สิงหาคม 2559 ได้อนุมัติให้ ทอท.จ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา SCS Consortium เป็นผู้รับจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างโครงการพัฒนา ทสภ. (ปีงบประมาณ 2554 - 2560) เป็นเงิน 822,420,000.- บาท ภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 เป็นเงิน 57,569,400.- บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น
879,989,400.- บาท ระยะเวลาดำเนินงานตามสัญญาจ้างรวม 39 เดือน นับตั้งแต่วันที่กำหนดในหนังสือแจ้งบอกกล่าวให้เริ่มงาน
อนึ่ง ในวันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม 2559 ทอท.จะจัดพิธีลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการพัฒนา
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554 - 2560) กับบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กิจการค้าร่วม เอส จี แอนด์อินเตอร์ลิ้งค์ และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา SCS Consortium ณ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ ทั้งนี้ จากการที่คณะกรรมการ ทอท.ได้มีมติให้ ทอท.ดำเนินการปรับลดกรอบวงเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีไว้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงในปัจจุบัน ส่งผลให้งานประมูลทั้ง 3 สัญญาดังกล่าวต่ำกว่า งบประมาณรวมเป็นเงิน 9,046 ล้านบาท และต่ำกว่าราคากลางเป็นเงิน 1,655 ล้านบาท แผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.)
ทอท.มีแผนลงทุนสำหรับพัฒนาท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งในวงเงินประมาณราว 1.95 แสนล้านบาท มากกว่าสินทรัพย์รวมทั้งหมดของ ทอท.ที่มีอยู่ ณ สิ้นปีงบประมาณ 2558 ที่ระดับราว 1.60 แสนล้านบาท ทั้งนี้ ในการลงทุนดังกล่าว คณะกรรมการ ทอท.ได้ให้ความเห็นชอบแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานเชียงใหม่ ไปแล้ว 3 แห่งในวงเงินประมาณราว 1.62 แสนล้านบาท และในการประชุมคณะกรรมการ ทอท.ครั้งที่ 10/2559 วันที่ 19 สิงหาคม 2559 ทอท.ได้นำเสนอแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ซึ่งมีวัตถุประสงค์ของการจัดทำแผน คือ (1) มีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 และ 12 นโยบายกระทรวงคมนาคม วิสัยทัศน์องค์กรและตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ของ
ท่าอากาศยาน (2) เพื่อพัฒนา ทชร.ให้สอดคล้องกับการเจริญเติบโตของปริมาณการจราจรทางอากาศ และรองรับการบริการแก่กลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงและประเทศจีนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว (3) เพื่อให้ท่าอากาศยานมีความยั่งยืน
ในการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศและเชื่อมต่อการบินระหว่างภาคเหนือตอนบนกับท่าอากาศยานอื่น รวมทั้งกิจกรรมทางด้านการบินที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและรองรับอากาศยานกรณีฉุกเฉิน (4) เพื่อใช้ในการสื่อสารกับ
ผู้มีส่วนได้เสีย รวมทั้งผู้ถือหุ้น ในเรื่องของแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานในอีก 20 ปีข้างหน้า และ (5) เพื่อให้ลูกค้าผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับท่าอากาศยานรู้ถึงอัตราการเติบโตเพื่อพัฒนาและบริหารจัดการธุรกิจให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาท่าอากาศยาน
ในการจัดทำแผน ทอท.ได้ศึกษาขีดความสามารถสิ่งอำนวยความสะดวกปัจจุบันของ ทชร.ได้แก่ ระบบ
ทางวิ่งทางขับ ซึ่งปัจจุบันมีทางวิ่ง 1 เส้น ความยาว 3,000 เมตร และกว้าง 45 เมตร มีขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินได้ 16 เที่ยวบินต่อชั่วโมง (แต่ในการบริหารจัดการการจราจรทางอากาศ ปัจจุบันประกาศที่ 10 เที่ยวบิน
ต่อชั่วโมง) มีลานจอดอากาศยานจอดได้ 5 ลำ สำหรับอาคารผู้โดยสารซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 3 ล้านคนต่อปี ประกอบกับได้คาดการณ์ปริมาณการจราจรทางอากาศของ ทชร. ตามปัจจัยที่มีผลกระทบต่อปริมาณการจราจรในภาพรวม ณ ปัจจุบัน ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การเติบโตของสายการบินต้นทุนต่ำ การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบในธุรกิจการบิน ภัยพิบัติทางธรรมชาติ โรคระบาด และปัจจัยการเมือง
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2548 - 2558) เป็นเกณฑ์ และได้คาดการณ์ว่า ในปี 2563 จะมีเที่ยวบินประมาณ 18,700 เที่ยวบิน มีผู้โดยสาร 2.5 ล้านคน และมีปริมาณสินค้า 7,000 ตัน ในปี พ.ศ.2568 จะมีเที่ยวบินประมาณ 21,300 เที่ยวบิน
มีผู้โดยสาร 2.9 ล้านคน และมีปริมาณสินค้า 8,400 ตัน และในปี พ.ศ.2578 จะมีเที่ยวบินประมาณ 25,500 เที่ยวบิน
มีผู้โดยสาร 3.63 ล้านคน และมีปริมาณสินค้า 10,000 ตัน
ดังนั้น ทอท.จึงได้พิจารณาจัดทำแผนแม่บทการพัฒนา ทชร. มีแนวทางการพัฒนาแบ่งเป็น 3 ระยะ
แผนพัฒนาระยะที่หนึ่ง (ปี พ.ศ.2559 - 2564) มีเป้าหมายที่จะรองรับปริมาณจราจรทางอากาศในปี พ.ศ.2568 แผนพัฒนาระยะที่สอง (ปี พ.ศ.2564 - 2568) มีเป้าหมายที่จะรองรับปริมาณจราจรทางอากาศในปี พ.ศ.2573 และแผนพัฒนาระยะที่สาม (ปี พ.ศ.2569 - 2573) มีเป้าหมายที่จะรองรับปริมาณจราจรทางอากาศในปี พ.ศ.2578
โดยมีรายละเอียดของการดำเนินการ ดังนี้
(1) แผนพัฒนาระยะที่หนึ่ง (ปี พ.ศ.2559 - 2564) วงเงินลงทุนประมาณ 3.7 พันล้านบาท (ไม่รวมสำรองราคาเปลี่ยนแปลง และไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มีเป้าหมายรองรับปริมาณจราจรทางอากาศได้ถึงปี พ.ศ.2568 ระบบทางวิ่งและทางขับ รองรับเที่ยวบินได้ 16 เที่ยวบินต่อชั่วโมง หลุมจอดอากาศยาน 10 หลุมจอด รองรับผู้โดยสารได้
3 ล้านคนต่อปี และมีที่จอดรถยนต์ 1,200 คัน ประกอบด้วย กลุ่มงานเขตการบิน เช่น การก่อสร้างขยายลานจอดอากาศยานด้านทิศใต้พร้อมการซ่อมปรับปรุงลานจอดอากาศยานเดิม การก่อสร้างหลุมจอดอากาศยานด้านทิศเหนือพร้อมทางขับทางเชื่อมต่อทางวิ่งให้สามารถรองรับเฮลิคอปเตอร์ได้รวม 12 ลำ เป็นต้น กลุ่มงานอาคารผู้โดยสาร การปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังเดิม พร้อมทั้งก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลังเดิมด้านทิศเหนือ และชานชาลารับส่งผู้โดยสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบสัญจรภายในอาคารผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 3 ล้านคน พร้อมหลุมจอดประชิดอาคารรวม 5 หลุมจอด กลุ่มงานระบบสนับสนุนท่าอากาศยาน เช่น การปรับปรุงระบบถนนภายในท่าอากาศยาน จากเดิม 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจรเพื่อให้เกิดความคล่องตัว การก่อสร้างขยายอาคารคลังสินค้า เป็นต้น
(2) แผนพัฒนาระยะที่สอง (ปี พ.ศ.2564 - 2568) วงเงินลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท (ไม่รวมสำรองราคาเปลี่ยนแปลง และไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มีเป้าหมายเพื่อให้สามารถรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศได้ถึงปี
พ.ศ.2573 รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 3.3 ล้านคนต่อปี ระบบทางวิ่งและทางขับรองรับเที่ยวบินได้ 16 เที่ยวบิน
ต่อชั่วโมง หลุมจอดอากาศยาน 12 หลุมจอด ประกอบด้วย กลุ่มงานเขตการบิน เป็นก่อสร้างหลุมจอดอากาศยานด้านทิศใต้ กลุ่มงานอาคารผู้โดยสาร การก่อสร้างขยายอาคารผู้โดยสารบริเวณด้านทิศใต้ พร้อมหลุมจอดประชิดอาคาร
6 หลุมจอด และกลุ่มงานสนับสนุนท่าอากาศยาน งานก่อสร้างขยายโรงซ่อมบำรุงอุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้น (GSE) บริเวณด้านทิศใต้
(3) แผนพัฒนาระยะที่สาม (ปี พ.ศ.2569 - 2573) วงเงินลงทุนประมาณ 1.9 พันล้านบาท (ไม่รวมสำรองราคาเปลี่ยนแปลง และไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มีเป้าหมายเพื่อให้สามารถรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศได้ถึงปี 2578 รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 3.7 ล้านคนต่อปี ระบบทางวิ่งและทางขับรองรับเที่ยวบินได้ 30 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
หลุมจอดอากาศยาน 13 หลุมจอด ประกอบด้วย กลุ่มงานเขตการบิน มีงานก่อสร้างหลุมจอดอากาศยานด้านทิศใต้
และงานก่อสร้างทางขับขนานบางส่วน (partial parallel taxiway) กลุ่มงานอาคารผู้โดยสารเป็นงานปรับปรุงติดตั้งเพิ่มเติมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคารผู้โดยสาร
ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท.ครั้งที่ 10/2559 วันที่ 19 สิงหาคม 2559 คณะกรรมการ ทอท.มีมติเห็นชอบแผนแม่บทการพัฒนา ทชร.ตามที่ ทอท.เสนอ
อนึ่ง เมื่อรวมวงเงินตามแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานทั้ง 4 แห่ง ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ ทอท.แล้ว รวมเป็นเงินกว่า 1.6 แสนล้านบาท และ ทอท. จะได้นำเสนอแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานหาดใหญ่ และแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต เป็นลำดับต่อไป